วงการสงฆ์สุดสลดอาลัย “สมเด็จพระพุทธชินวงศ์” วัดพิชัยญาติ มรณภาพอย่างสงบหลังจากฟอกไต พระเถรานุเถระร่วมประชุม-เตรียมเคลื่อนสรีระ 2 มิ.ย.

0
2382

 

นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการคณะสงฆ์ หลังการทราบข่าว ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สมเด็จพุทธชินวงศ์  (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาลัยเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆสจังหวัดนครปฐม ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ที่รพ.กรุงเทพ และได้กำหนดมีการประชุมพระเถรานุเถระ เจ้าคณะปกครอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดพิธีศพ โดยมีรายงานว่าจะมีการเคลื่อนสรีระสังขารจากรพ.กรุงเทพ ในวันที่  2 ก.ค.2562 เวลา 09.00 น. ทั้งนี้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ มีอาการอาพาธและเข้ารับการฟอกไตที่รพ.กรุงเทพมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงหลังมีรายงานว่าสมเด็จพระพุทธชินวงศ์มีอาการทางหัวใจด้วย สำหรับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ปัจจุบันสิริอายุ 78 ปี 58 พรรษา เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสโดยสมณศักดิ์รองจาก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ สมเด็จพระวันรัต(จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร และสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) วัดเทพศิรินทราวาส ตามลำดับ

มีรายงานล่าสุดวันนี้ (29 มิถุนายน 2562) เวลา 11.00 น. นพ. รัตนพันธุ์ อินเจริญศักดิ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ รพ. หัวใจกรุงเทพ แพทย์เจ้าของไข้ให้ข้อมูลว่า สมเด็จพระพุทธชินวงศ์  ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยภาวะความดันโลหิตสูง หัวใจโต ให้การรักษาด้วยยา ต่อมามีภาวะโรคไต จึงได้ทำการรักษาโดยการฟอกเลือดล้างไต ด้วยเครื่องไตเทียม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555  เป็นระยะเวลา 7 ปี ทั้งนี้มีภาวะหัวใจทำงานหนักมาโดยตลอด เมื่อปี พ.ศ. 2560 พบว่ามีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ จึงได้รับการรักษาโดยการทำบอลลูน สวนหัวใจ 1 เส้น และได้รับการฟอกไตตลอดมา ซึ่งช่วงหลังๆ ท่านมักจะมีอาการเหนื่อยหลังจากฟอกไต  และมีความดันต่ำระหว่างฟอกไต

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2562 เข้ารับการฟอกเลือดล้างไตตามปกติเป็นที่เรียบร้อยดี ท่านเตรียมตัวกำลังจะกลับ เกิดอาการสะอึก ไอ แล้วเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทีมแพทย์และพยาบาลเข้าให้การช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ ทำการปั้มหัวใจ (CPR) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที  และได้มรณภาพลงในเวลา 17.24 น. นับเป็นสูญเสียครั้งสำคัญที่สุดของวงการคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน และลูกศิษย์ทุกคน

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ มีนามเดิมว่า สมศักดิ์ ชูมาลัยวงศ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. 2484 ที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 2 ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2504 ที่วัดละมุด จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูนครวิหารคุณ (ฟัก) วัดบันได เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า อุปสโม มีความหมายว่า ผู้มีจิตใจสงบในธรรมอันลึกซึ้ง

การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2515 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค มุ่งมั่นศึกษาในการเรียนบาลี มีความเพียรเป็นเลิศ ศึกษาค้นคว้าตำรับตำราจนชำนาญ เก่งคำศัพท์ แม่นไวยากรณ์ อีกทั้งมีพรสวรรค์ด้านแต่งกาพย์กลอน เขียนตำราบาลี ช่ำชองภาษาพม่า สันสกฤต และอังกฤษ โดดเด่นทั้งการศึกษาและวิชาการ

จากนั้น หันไปสนใจบาลี พ.ศ.2517 ไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดีย จนสอบได้ปริญญามหาบัณฑิต และปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์เอเชียโบราณ จากมหาวิทยาลัยมคธ เมื่อจบวิชาการจากประเทศอินเดีย ได้เดินทางกลับเมืองไทยทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือ ได้รับงานคณบดีคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และทำหน้าที่ครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ป.ธ.8 ประจำสำนักเรียนส่วนกลางวัดสามพระยา และสำนักเรียนวัดชนะสงคราม

ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านและได้ตีพิมพ์แล้ว อาทิ คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกาฎกา, ปริวรรตแปลปทานุกรมพระไตรปิฎกฉบับบาลี-ไทย เป็นต้น ล้วนได้รับการยอมรับจากคณะสงฆ์ทั้งสิ้น

(ภาพการประชุมเตรียมงาน ณ วัดพิชัยญาติ) 

ด้านงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2529 เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ พ.ศ.2540 เป็นเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร พ.ศ.2550 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (โดยแต่งตั้ง) พ.ศ.2554 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (โดยตำแหน่ง) พ.ศ.2554 เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ นอกจากดำรงตำแหน่งสำคัญในทางคณะสงฆ์ ท่านยังมีตำแหน่งอีกมากมาย อาทิ หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ 1, คณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.), กรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์, รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จ.นครปฐม เป็นต้น

ทั้งนี้ เจ้าประคุณสมเด็จฯ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระศรีสุทธิพงศ์ เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งในชื่อว่า “สถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส” เมื่อปี พ.ศ.2530 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูการเรียนการสอนภาษาบาลีตามแนวคัมภีร์หลักภาษาบาลีชั้นสูง ได้แก่ คัมภีร์สัททาวิเสส เพื่อเป็นการวางพื้นฐานความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาบาลีซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการศึกษาพระไตรปิฎกได้อย่างถูกต้อง

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ โครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐานสำหรับเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ณ อาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหาวิชชาลัย พุทธมณฑล จ.นครปฐม และไปปฏิบัติศาสนกิจต่อที่วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆสจังหวัดนครปฐม นับเป็นการปฏิบัติศาสนกิจครั้งสุดท้าย