พระครูปลัดกวีวัฒน์ (ธีรวิทย์ ฉนฺทวิชฺโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส ในฐานะรองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์ศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 31 ม.ค. เวลา 21.10 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สามเสน เข้ามาขอตรวจค้นที่คณะใต้ วัดราชาฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งกุฏิของพระธรรมกิตติเมธี (เกษม สญฺญโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาฯ ประธานศูนย์พิทักษ์ฯ และเจ้าคณะภาค 16-17-18 (ธรรมยุต) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ กล่าวหาว่ามีพระมั่วสุมเล่นไพ่ ดูหนังลามกอนาจาร โดยระบุชื่อว่า คือ พระธรรมกิตติเมธี และพระธีรวิทย์ ซึ่งหมายถึงตน แต่ผลการเข้าตรวจค้นไม่ปรากฏเหตุการณ์ตามที่มีผู้มาแจ้งไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้พระธรรมกิตติเมธี และตน ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.สามเสน โดยมีร.ต.ท.กิตติพิชญ์ เดชพันธุ์ เป็นผู้รับลงบันทึกประจำวัน เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ที่โทรมาแจ้งเรื่องดังกล่าวมาสอบถามความจริงถึงเหตุจูงใจอะไร ทำไมถึงได้กล่าวหาพระผู้ใหญ่ ที่สำคัญคนที่ีโทรศัพท์ไปแจ้ง ภายหลังทราบว่าเป็นคนๆ เดียวกับที่เคยโทรไปป่วนที่วัดราชาฯ และเคยโทรไปแจ้งตำรวจสน.สามเสน ในลักษณะเดียวกันมาแล้ว จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่มีความรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุกับพระผู้ใหญ่ ควรมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เข้าร่วมด้วย และจากเหตุการณ์นี้จะเห็นว่า ไม่มีกระบวนการคุ้มครองพระสงฆ์แม้แต้พระผู้ใหญ่เลย จึงเกรงว่าจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ต่อไปหากใครอยากจะกลั่นแกล้งพระสงฆ์ ก็เพียงแค่โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
ด้านพระสุธีวีรบัณฑิต (เจ้าคุณพระมหาโชว์ ทสฺสนีโย) ได้โพสต์คลิปแสดงธรรมเผยแพร่ในยูทูป https://www.youtube.com/ โดยกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเมื่อเวลา 3 ทุ่มเศษ ของวันที่ 31 ม.ค. ตามที่ศูนย์พิทักษ์ฯได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาเปิดเผยว่า มีจนท.ตำรวจเข้าไปตรวจสอบนั้น ในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ไม่ควรบ้องตื้นเพียงได้รับแจ้งทางโทรศัพท์โดยไม่มีการตรวจสอบเสียก่อน ถ้าเจ้าที่ตำรวจสน.อื่นเขาทำแบบสน.สามเสนบ้างก็จะวุ่นวายกันไปหมด หรือย่างที่สน.ป้อมปราบได้รับแจ้งว่าพระทะเลาะกันให้ไปจับอีกฝ่ายหนึ่งสึก ถ้าบ้องตื้นอย่างสน.สามเสน ป่านนี้วัดสระเกศฯก็คงวุ่นวาย เป็นที่เดือดร้อนในสังฆมณฑล เท่าที่ดูเหมือนไม่มีการตรวจสอบก่อน แล้วคนที่แจ้งก็ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน ถ้าทุกคนโทรไปแจ้งจะทำเช่นนี้หรือไม่ กับศาสนาอื่นๆ จะกล้าไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่ทำหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ เกี่ยวกับพระศาสนา ทำให้ไม่มั่นใจในพฤติกรรมที่แสดงออกนี้ ดังนั้น ผู้ที่เข้าไปตรวจสอบประธานศูนย์พิทักษ์ฯ ขอให้เป็นคติเตือนใจ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร พ่อค้า ประชาชน ขออย่าบ้องตื้น อย่าทำตัวทุเรศ อย่าชี้อะไรส่งเดช ชี้แล้วต้องรู้ด้วย ต้องทั้งรู้และชี้ ไม่ใช่ไม่รู้แต่เสือกชี้ จึงขอฝากความถูกต้อง ความดีงาม ฝากธรรมะเอาไว้สู่หัวใจของทุกท่านเพื่อสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง แก่สังคมประเทศชาติบ้านเมืองสืบไป
