X

“มหาจุฬาฯ” จัดพิธีรับปริญญาครั้งใหญ่ เฉียด 2.7 พันรูป/คน กับอีก 5 ประเทศสถาบันสมทบ ปลื้มสาวน้อยร่างพิการจบป.ตรี รัฐประศาสนศาสตร์

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2561 ที่อาคาร มวก. 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) อธิการบดี มจร. กล่าวภายหลังการแสดงปาฐกถาพิเศษ “คุณูปการพระพุทธศาสนากับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” ว่า ในโอกาสที่ มจร.จัดพิธีประสาทปริญญาประจำปี 2561 มีผู้ศึกษาจบระดับปริญญาตรี โท เอก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่เรียนจบสถาบันสมทบของมจร.  จาก 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเกาหลีไต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ ศรีลังกา และฮังการี จะเข้ามารับปริญญาพร้อมกัน จึงถือว่าเป็นงานใหญ่ที่ชุมนุมเหล่าบัณฑิตทั้งหลาย และในโอกาสนี้จะมีการแสดงปาฐกถาพิเศษประจำปีเพื่อกำหนดแนวทางให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษา เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมงานรับปริญญาเป็นจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 9,000 รูป/คน มจร.จึงกำหนดจัดขึ้น 2 วัน คือ วันที่ 12-13 พ.ค.2561 โดยจะมีผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ทั้งในประทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ในปลายเดือน พ.ค. ณ ห้องประชุมแห่งนี้ก็จะมีการจัดงานประชุมวิสาขบูชาโลกในหัวข้อเรื่อง “คุณูปการพระพุทธศาสนากับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงได้รับรางวัลจากสหประชาชาติในเรื่องการพัฒนามนุษย์ โดยในวันนี้ก็ได้แสดงปาฐกถาไปบางส่วนด้วยแล้ว

อธิการบดี มจร. กล่าวต่อไปว่า เรื่องสำคัญคือการแสดงปาฐกถานำของนายกรัฐมนตรีภูฏาน ที่จะมาในพิธีเปิดงานวิสาขบูชา วันที่ 25 พ.ค. ในหัวข้อเดียวกันนี้ แต่ในมุมมองของการนำเอาพระพุทธศาสนาไปพัฒนาประเทศ ที่เรียกว่า นโยบายจีเอ็นเอส หรือความสุขมวลรวมของประชาชาติ จะเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จของภูฏานว่าได้ทำไปถึงไหน อย่างไร ซึ่งผู้เข้าร่วมในงานจะได้รับฟังโดยตรงจากนายกรัฐมนตรีภูฏาน ส่วนในวันที่ 26 พ.ค.จะเป็นการเสวนาทางวิชาการ จากนั้นจะไปปิดงานกันที่หอประชุมสหประชาชาติ  ราชดำเนิน กรุงเทพฯ ซึ่งในวันนั้นจะมีการแถลงการณ์ปฏิญญากรุงเทพฯ ด้วย ต่อจากนั้นในช่วงเย็นผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติทั้งหมด จะเดินทางไปเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชาที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม

“พระพุทธศาสนากับการพัฒนามนุษย์นี้ เน้นพิเศษที่การนำเอาคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปพัฒนามนุษย์ให้มีความสุข โดยเฉพาะกรณีตัวอย่างจากประเทศต่างๆ โดยเทียบเคียงกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ของประเทศไทย ส่วนในวันนี้ได้พูดถึงคำสอนของพระพุทธศาสนาที่ผสมผสานเป็นหลักของการพัฒนา ซึ่งการพัฒนาได้เอามนุษย์เป็นตัวตั้ง แล้วให้พัฒนาอย่างสมดุลทั้งเรื่องกาย เรื่องจิต เรื่องปัญญา โดยให้เชื่อมโยงทางกายภาพด้านจิตใจเข้าด้วยกัน” พระพรหมบัณฑิต กล่าว

 

พระเมธีธรรมาจารย์  (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มจร. กล่าวว่า   ในปีนี้มีบัณฑิตสําเร็จการศึกษาทุกระดับ ซึ่งมีบรรพชิตที่สําเร็จการศึกษาเป็นจํานวนมากที่สุด รวมทั้งสิ้น  2,706  รูป  และคฤหัสถ์  2,215  คน  รวมทั้งสิ้น  4,921  รูป/คน  พร้อมกับได้มีการมอบปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์  ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  และเข็มเกียรติคุณ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) เสด็จประทานปริญญาบัตร  โดยมีพระพรหมบัณฑิต พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัย  ผู้บริหาร  คณาจารย์ เจ้าหน้าที่  พุทธศาสตรบัณฑิตใหม่จากทั่วประเทศและพุทธศาสนิกชนจํานวนมากจะมาเฝ้าถวายการต้อนรับ

 

พระเมธีธรรมาจารย์  กล่าวอีกว่า มจร.เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพระสงฆ์มาศึกษาเล่าเรียนจำนวนมากและมีพระสงฆ์นานาชาติมาศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรี-โท-เอก ทั้งหลักสูตรอินเตอร์และหลักสูตรภาษาไทย มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก  ซึ่งรวมแล้วทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ที่กําลังศึกษาอยู่ทั้งสิ้น 19,554  รูป/คน เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยเปิดโอกาส  จึงมีทั้งผู้สูงอายุ  หรือแม้กระทั่งคนที่มีความผิดปกติทางร่างกายก็สามารถเรียนได้เช่นเดียวกับคนปกติ  และในปีนี้  นางสาววรางคณา เรืองน้อย  หรือน้องบุ๋มบิ๋ม  หญิงสาวใจสู้  แม้มีความผิดปกติทางร่างกายต้องนั่งรถเข็นวินแชร์แต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิต  มีความมุมานะเรียนปริญญาตรีจนสําเร็จการศึกษาสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ นอกจากนี้   มีนิสิตที่อายุมากที่สุด  ซึ่งเป็นพระสงฆ์ อายุ 81 ปี  เข้ารับปริญญาในระดับพุทธศาสตรดุษฏีบัณฑิต  สาขาการจัดการเชิงพุทธ  ซึ่งท่านได้กล่าวว่า อยากให้พระสงฆ์เห็นความสำคัญของการศึกษาจึงมาเรียนที่ มจร. เพื่อเป็นตัวอย่างของพระสงฆ์รุ่นต่อๆ ไป

และในปีนี้ สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้มีการมอบ/ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์  ทั้งพระเถระจากในประเทศและประมุขสงฆ์จากต่างประเทศ  และยังมอบเข็มเกียรติคุณเพื่อยกย่องบุคคลที่ทําคุณประโยชน์อย่างยิ่งแก่ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์และมหาวิทยาลัย  ในจํานวนนี้มีผู้มีชื่อเสียงในวงการพระสงฆ์และนักแสดง  ศิลปิน  นักมวยในวงการอันมีชื่อเสียง เช่น  Most  Venerable  Shi  Yuan  Shan อายุ 98  ปี มาจากประเทศสาธารณรัฐประประชาชนจีน , พระโสภณพัฒนคุณ  หรือหลวงพ่อเศรษฐีเรือทอง  วัดพุน้อย  จังหวัดลพบุรี, คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี,  นายมานัส  ทารัตน์ใจ  อธิบดีกรมการศาสนา  , นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ เป็นต้น  และผู้ที่ได้รับเข็มประกาศเกียรติคุณ  เช่น นายอัครเดช  ยอดจําปา  (ก้อง  ห้วยไร่) นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง , นางปริศนา  วงศ์ศิริ  นักแสดง  ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองมหาชน  , นายสมบัติ  บัญชาเมฆ  (บัวขาว)  นักมวยอาชีพชื่อดัง  , นางสาวศรศิลป์ มณีวรรณ์  (มะนาว) ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียง  ช่อง 7 เป็นต้น

 

thairnews: