เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. กล่าวภายหลังประชุมมหาเถรสมาคม(มส.)ว่า การประชุมครั้งนี้ตนเข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ในขณะเดียวกันได้มอบหมายให้นายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการพศ. เป็นรักษาราชการการแทนผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ส่วนตำแหน่งรองผอ.พศ.ที่ว่างอยู่ 3 ตำแหน่งนั้น ยืนยันว่าต้องดำเนินการแน่นอน โดยจะทำตามระเบียบ กฎหมาย แต่ไม่ขอกำหนดเงื่อนเวลาว่าจะดำเนินการเสร็จเมื่อใด ซึ่งคนในพศ.หลายคนก็มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว ในส่วนการโยกย้ายข้าราชการพศ. จำนวน 14 ตำแหน่งที่ผ่านมา ถือว่า เป็นโยกย้ายตามความเหมาะสม สำหรับเรื่องของการทุจริตเงินทอนนั้น ขอให้ไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนไม่ขอพูดเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทางพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลพศ จะมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการทำงานแก่บุคลากรพศ.ด้วย
นายสมเกียรติ ธงศรี รักษาการผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ที่ประชุมมส.ได้เห็นชอบรูปแบบการจัดทำบัญชีวัด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เสนอ โดยจะเป็นรูปแบบบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างง่าย เหมือนกับบัญชีครัวเรือน โดยวัดจะต้องทำบัญชี 6 ส่วน ได้แก่ สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายรายวัน สมุดบัญชีเงินฝาก สมุดบัญชีแยกรายรับ สมุดบัญชีแยกรายจ่าย สมุดบัญชีงบประจำปี และสมุดรายงานงบประจำปี ซึ่งจะเริ่มนำร่องที่วัดดาวดึงษาราม กรุงเทพฯ ในปีงบประมาณ 2561 จากนั้นจะดำเนินการให้ครอบคลุมทุกวัดทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามมส.ได้มอบให้พศ. ไปดำเนินการจัดทำหนังสือคู่มือการจัดทำบัญชีวัดรูปแบบใหม่ พร้อมดำเนินการจัดอบรมถวายความรู้พระสังฆาธิการให้ครอบคลุมทั่วประเทศด้วย เพื่อจะได้มีความพร้อมและมีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
“การนำร่องวัดดาวดึง ถือว่า เป็นวัดขนาดกลาง โดยทางคณะสงฆ์เชื่อว่า วัดใหญ่และวัดขนาดกลาง ไม่น่าจะมีปัญหาในการจัดทำบัญชี แต่อาจจะมีปัญหาในวัดขนาดเล็กอยู่บ้าง จึงต้องมีการถวายความรู้ เพื่อให้การจัดทำบัญชีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญแสดงให้เห็นว่าคณะสงฆ์ ได้เห็นความสำคัญในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา และเห็นความสำคัญของการจัดทำบัญชีวัดให้เกิดความโปร่งใส” นายสมเกียรติ กล่าว