“พระสังฆราช” ประทานให้พระพรหมวชิรญาณ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน การเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ใน ร.9

0
1158

วันนี้ (17 ก.พ.2562) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ประทานให้ พระพรหมวชิรญาณ (ปสฤทธิ์ เขมงฺกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล แด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ณ ลานพิธีหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลพศ. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ผอ.พศ. พร้อมด้วยนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครปฐม คณะแม่บ้านทหารบก ข้าราชการ เจ้าหน้าที่พศ. คณะครู นักเรียน และพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธี

พระพรหมวชิรญาณ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลฯ และในโอกาสมหามงคลงานสัปดาห์ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา การนี้จึงขอพระสัมโมทนียกถาในเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ความตอนหนึ่งว่า “เราทั้งหลายได้รับพระราชทานโอกาส จากสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อกระทำกิจมหามงคลอีกวาระหนึ่ง ขอทุกท่านจงตั้งจิตประมวลพลังความดีงามนี้ น้อมถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อปวงชนชาวไทย

การที่เราทั้งหลายได้มารวมกันบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุศล ย่อมได้ชื่อว่า เป็นความกตัญญูกตเวที ในโอกาสนี้จึงขอให้ทุกท่านน้อมรำลึกในพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจทั้งสองพระองค์ แล้วมุ่งมั่นเจริญรอยตามเบื้องยุคลบาท ท่านทั้งหลายใคร่ครวญดูให้ดีเถิดว่า สมเด็จพระมหาบูรพมหากษัตริย์ทุกพระองค์นั้น ทรงมีพระราชหฤทัยอาจหาญแกล้วกล้าเพียงไร ในยามที่บ้านเมืองไม่ค่อยจะปรกติสุขเรียบร้อย ในยุคใดก็ตามกลับทรงยอมเสียสละ แบกรับพระราชภาระอันใหญ่หลวง เพื่อแก้ไขความทุกข์ยากของราษฎร พระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ทรงเป็นต้นแบบของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น “บัณฑิต” คือผู้สามารถนำพาประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์นานามาได้อย่างน่าอัศจรรย์”

สัมโมทนียกถาอีกตอนหนึ่งว่า “เนื่องในดิถีมาฆบูชา ขอพุทธบริษัททุกหมู่เหล่าใช้โอกาสนี้ร่วมสำรวจตนเองว่าจิตใจของตนๆ ยังดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยาก ด้วยอำนาจแห่งความโลภ ความโกรธ และความหลง อันเปรียบประดุจลูกศรที่ยังคดงอ ไม่สามารถพุ่งตรงไปได้โดยประการใดบ้าง  เมื่อสำรวจพบแล้ว จงหันมาเอาใจใส่ศึกษาพระปริยัติธรรมชำระจิตใจให้สะอาดผ่องแผ้ว จนยกระดับสู่ขั้นปฏิบัติธรรม เปรียบประดุจการทำลูกศรให้ตรง นำไปสู่การบรรลุถึงปฏิเวธธรรมอันเป็นเป้าประสงค์ในสมมโนปณิธานทุกประการ”

พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า วันมาฆบูชา นับเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นพร้อมกันในสมัยพุทธกาล 4 เหตุการณ์คือ เป็นวันที่พระอรหันตขีณาสพ 1,250 องค์ มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์และได้รับการอุปสมบทจากพำระพุทธเจ้าโดยตรง ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา และตรงกับวันเพ็ญกลางเดือน 3 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนา นับเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข์ ความสำคัญ คือ ละเว้นความชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ การจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี 2562 นี้ รัฐบาล มส. ได้เห็นชอบให้ พศ. ร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงานฯ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การจัดกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-20 ก.พ.2562 กิจกรรมประกอบด้วย การปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ฆราวาส และนักเรียนกลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา การทำบุญตักบาตร การเวียนเทียน การแสดงพระธรรมเทศนา การบรรยายธรรม การถวายสังฆทาน และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

“สำหรับพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในวันนี้ ได้รับเมตตาอนุเคราะห์จาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง นิมนต์พระสงฆ์ในเจตปกครองคณะสงฆ์หนกลางที่มาร่วมปฏิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ระหว่างวันที่ 15-19 กุมภาพันธ์ 2562 ณ อาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหาวิชชาลัย มาร่วมพิธี รวมทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พุทธศาสนิกชนผู้ปฏิบัติธรรมและคณะครู นักเรียนกลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา ร่วมในพิธี” พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว

“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””