วันนี้ (26 มกราคม 2562) เวลา 17.0 น. ที่ลานหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ (ป.ธ.9) วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ นำพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนประกอบพิธีวางดอกไม้ไหว้อาลัยแก่พระประครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ และพระสมุห์อรรถพร กุสลจิตฺโต อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ ต.โต๊ะเต็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่มรณภาพจากเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายในพื้นที่บุกเข้ากราดยิงด้วยอาวุธปืนเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับนำทำวัตรสวดมนต์เจริญกรณียเมตตสูตรเพื่อเรียกร้องสันติภาพและประณามเหตุความรุนแรงที่เกิดกับพระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า ตั้งใจอยากเชิญชวนชาวพุทธที่รักสงบและสันติมาแสดงออกซึ่งเหตุการณ์พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อสะท้อนถึงความห่วงใยและไม่เพิกเฉยกับเหตุความรุนแรงครั้งนี้ โดยไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากมายนอกจากมาสวดมนต์ วางดอกไม้ไว้อาลัยต่อพระประครูประโชติรัตนานุรักษ์ และพระลูกวัดที่มรณภาพเท่านั้น อย่างไรก็ตามต้องขอประณามอย่างชัดเจนเมื่อทราบข่าวว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น อันเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะยอมรับได้และยอมรับไม่ได้เลยที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในวัดซึ่งเป็นเขตอภัยทาน ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจและป่าเถื่อนมาก
พระมหาไพรวัลย์ กล่าวต่อไปว่า เป็นที่สงสัยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง ถือว่าเป็นความหละหลวมอย่างน่าแปลกใจที่วัดในพื้นที่เสี่ยงใน 3 จชต.จะต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรักษาความปลอดภัย แต่ทำไมวัดรัตนานุภาพถึงไม่มี จึงเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถเข้าไปก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงควรต้องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุที่น่าเศร้าสลดใจเช่นนี้
“สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ อาตมาก็เข้าใจนะว่าทางการเขาประเมินสถานการณ์ได้ยาก คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น อาตมาขอบอกว่าเห็นใจ แต่ก็ควรมีมาตรการอะไรที่เป็นรูปธรรมขึ้นมาบ้าง ต่อจากนี้จะมีหลักประกันอะไรที่จะให้เชื่อได้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นมาอีก ความสงบสุขจะมีกับทุกคนในพื้นที่หรือโดยเฉพาะชาวพุทธซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในพื้นที่” พระมหาไพรวัลย์ กล่าว
