‘พรรคพลังชาติไทย’ เปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “รวมแผ่นดิน” ตามคาด “บิ้กน้อย” นั่งหน.พรรค ชูนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ

0
413

วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์  กรุงเทพมหานคร มีการประชุมใหญ่วิสามัญ พรรคพลังชาติไทย ครั้งที่ 1/2565 โดยมีพลตรีพิชิต บุตรวงศ์ รองหัวหน้าพรรค รักษาการหัวหน้าพรรคพรรคพลังชาติไทย เป็นประธานที่ประชุม พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พลตรีพิชิต บุตรวงศ์ รองหัวหน้าพรรคพลังชาติไทย  และผู้มีบทบาททางการเมืองไทยหลายท่านเข้าร่วมประชุม โอกาสนี้ที่ประชุมได้ถือฤกษ์มงคลเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่ เป็นพรรค “รวมแผ่นดิน” Thailand Together Party (TTP) และมีการลงมติของสมาชิกพรรคเลือก พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกรรมการบริหารพรรค 14 คน มีนายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นเลขาธิการพรรค พล.ต.พิชิต บุตรวงศ์ เป็นรองหัวหน้าพรรค นานคมสันต์ พันธุ์วิชาติกุล เป็นกรรมการบริหารพรรคและโฆษกพรรค

เพื่อเป็นพรรคการเมืองยุคใหม่ ที่รวบรวมผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มากไปด้วยประสบการณ์ทั่วแผ่นดินไทย ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายช่วงอายุ อาชีพ ทุกเพศทุกวัย แม้ที่มาจะแตกต่างกันแต่ แต่พวกมีอุดมการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ มุ่งลดความขัดแย้งทางการเมือง ปรองดอง ประสานงานกับทุกฝ่าย เพื่อรวบรวมสรรพกำลังความรู้ ความสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน หารายได้เข้าประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สนับสนุนการส่งออก เศรษฐกิจขนาดเล็ก การสนับสนุนยกระดับการเกษตรของไทย สู่อุตสาหกรรมเกษตรที่สมบูรณ์ ใช้เทคโนโลยี วิธีการที่ทันสมัย ผสมผสานแนวคิดทีมงานคนรุ่นใหม่ รุ่นก่อน พัฒนาการเกษตร เศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า พัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัย เพื่อคุณภาพสินค้าที่สูงขึ้น เป็นที่ต้องการของประเทศต่างๆ สามารถส่งออกเพิ่มมากขึ้น ภายในกรอบเวลาที่จำกัด ดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีและเท่าเทียมเข้าถึงบริการพื้นฐานของรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้ชูนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ 1.พรรคจะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการเพิ่มกำลังการการบริโภคของประชาชน และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ด้วยการเพิ่มเงินในมือของประชาชนในพื้นที่ที่ยังต้องมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอยู่มาก ผ่านการให้ระบบสวัสดิการอุดหนุนค่าครองชีพในพื้นที่ดังกล่าว ในรูปแบบของคูปองในสองปีแรกของการเป็นรัฐบาลเพื่อสนับสนุนตลาดท้องถิ่น ตลาดพื้นบ้าน หรือตลาดการเกษตรชุมชน ร่วมกับการอบรมอาชีพเพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน e-commerce เพื่อต่อยอดนำผลผลิตชุมซนเข้าสู่การซื้อขายออนไลน์ได้ในอนาคต ในขณะเดียวกันจะส่งเสริมต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง การเกษตรชาญฉลาด (Smart Farmer) และวิศวกรรมอุตสาหกรรมอย่างง่าย เพื่อให้ประชาชนสามารถลดค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ไม่จำเป็นออกไปอย่างเป็นรูปธรรม 2. พรรคจะสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิตัลให้เกิดขึ้นได้จริง อย่างเป็นสัดส่วนที่สูงทัดเทียมอารยประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำตลาดของประชาชน และอุตสาหกรรมครัวเรือนในประเทศ โดยสนับสนุนให้เกิดกระดานการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ของคนไทย ที่มีศักยภาพ และได้รับความนิยมสูง ผ่านความร่วมมือกับ กสทช. และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการสื่อสาร และส่งเสริมการผลิตบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและดิจิตัล ให้เพียงพอ ผ่านการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรม

  1. พรรคจะส่งเสริมในการเพิ่มรายได้ ให้กับประเทศ ด้วยการเน้นและผลักดันการส่งออกของประเทศ ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันส่งเสริมให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรม S-curve และอุตสาหกรรมล้ำยุคไปในตัว ด้วยมาตรการยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกิจการที่สามารถริเริ่มมูลค่าการส่งออกได้ในสามปีแรก ไม่ว่าจะเป็นกิจการขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ และอุตสาหกรรมที่สามารถเพิ่มจำนวนการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจที่มีอัตราสูงในสามปีแรกเช่นกัน นอกจากนั้นจะส่งเสริมการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมดิจิตัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ เขตอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงต่าง! ศึกษาเพื่อผลักดันการเปิดเสรีบ่อนการพนันถูกกฎหมาย ฟื้นฟูธุรกิจสถานบันเทิงส่งเสริมการท่องเที่ยว 4. พัฒนาการศึกษาและแรงงาน พรรคจะเน้นการผลิตบุคลากรที่เป็นที่ต้องการในระบบเศรษฐกิจ และขาดแคลนสูง เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีอนาคต ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งออกบุคลากรเหล่านี้ เพื่อนำเข้าเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่างเทคนิค ช่างฝีมือ บุคลากรสายอาชีวะ บุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัณฑณศิลป์ ศิลปิน และบุคลากรด้านศิลปะและวัฒนธรรม บุคลากรด้านสาธารณสุขและการแพทย์ และจะพัฒนาตลาดแรงงานให้เข้าสู่กลุ่มสาขาอาชีพที่มีความต้องการเหล่านี้ เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งเสริมสิทธิเด็กและสตรี 5. พรรคจะไม่เพิ่มหนี้สาธารณะที่ไม่จำเป็น แต่จะพยายามนำระบบโครงสร้างการขนส่งและคมนาคมขั้นพื้นฐาน การขนส่ง และชั้นพัฒนาใหม่ของประเทศ ให้เกิดการเชื่อมโยงและเกื้อกูลกันของเศรษฐกิจให้มากที่สุด นอกจากนั้นแล้วจะส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างโหมดการเดินทาง และโครงสร้างการขนส่งเหล่านั้น เพื่อเป็นการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและเพิ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุด