X

“พงศ์พร” ยังไม่พักงานบิ๊กพศ. จ่อลดอำนาจบริหาร – ลงนามอนุมัติ ยังอยู่ในขั้นสอบเอี่ยวทุจริตเงินวัด

จากกรณีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง การทุจริตเงินทอนวัด และได้มีหนังสือย้าย 4 ข้าราชการ เพื่อเตรียมตรวจสอบความโปร่งใสในกองพุทธศาสนศึกษาและกองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา กระทั่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากข้าราชการเป็นจำนวนมากนั้น เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยัง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. โดย พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า การโยกย้ายครั้งนี้ เพื่อที่จะเข้าไปตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมของกองพุทธศึกษาศึกษา จึงต้องย้ายนายบุญเลิศ โสภา ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา  ออกไปก่อน ในด้านการหาหลักฐานตรวจสอบเรื่องงบอุดหนุนต่างๆ ซึ่งขณะนี้ตนได้รับเบาะแสมาจากทั้งพระภิกษุ และเจ้าหน้าที่ มารายงานให้ทราบถึงข้อมูลความไม่โปร่งใสในกองดังกล่าว จึงทำให้มีการตรวจสอบเกิดขึ้น โดยไม่ได้หมายความว่า ผอ.กองพุทธศาสนศึกษากระทำความผิดเรื่องการทุจริตแต่อย่างใด

พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวต่อไปว่า อีกกรณีสำหรับการเปลี่ยนตัวบุคคลมาบริหารกองพุทธศาสนศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า การศึกษาคณะสงฆ์มีคุณภาพไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานหลายเรื่อง และตนได้ให้ระยะเวลาปรับปรุงหลายเดือนแล้ว ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหา ดังนั้น ตนจึงต้องหาคนอื่นมาทำการบริหารงานแทน ส่วนเรื่องการเป็นอดีตคณะกรรมการกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น คงไม่เกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบและการทำงาน หากถ้าจะมีการตรวจสอบถึงจะเคยเป็นตำแหน่งอะไร ตนก็คงต้องดำเนินการย้ายทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งรองผอ.พศ. ที่มีชื่อในคดีเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัดแต่ยังทำหน้าที่บริหารงานราชการอยู่ ทำไมถึงไม่มีการพักงานไว้ก่อน เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า การพักงานจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยขึ้นมาก่อน ซึ่งขณะมีเพียงการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาเท่านั้น โดยคณะกรรมการสอบสวนวินัยจะพิจารณาว่า หากบุคคลดังกล่าวยังอยู่ในตำแหน่ง จะทำให้การสอบสวนเสียหายหรือไม่ หากมองว่า มีผลก็จะต้องออกคำสั่งให้พักงานชั่วคราวไปก่อน หรือให้ทำงานในส่วนไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน ส่วนกรณีที่ทางผู้บริหารระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตเงินทอนวัดยังดูแลในส่วนบริหารงบประมาณและคนอยู่นั้น การพักงานอาจจะไปกระทบเงินเดือน ตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น ตนจะดำเนินการจำกัดอำนาจการบริหารของรองผอ.พศ. ที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีการทุจริตเงินวัด โดยจะไม่ให้ดูในเรื่องของงบประมาณ หรือบริหารงานบุคคล โดยจะไม่ให้คุมอะไรที่เกี่ยวกับการอนุมัติ เพื่อเป็นการลดอำนาจทั้งหมดจนกว่า คดีจะสิ้นสุด หากพบว่า กระทำความผิดก็ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและต้องรับโทษทางอาญาด้วย

ผอ.พศ.กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการทุจริตเงินทอนวัดจำนวน 12 แห่งนั้น ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติมเข้ามา คงต้องรอผลการสอบสวนข้อมูล ส่วนการเปิดเผยจังหวัดหรือวัดเพิ่มเติมนั้น พศ.ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็พร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนทันที อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จะมาหารือกับพศ.เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการทุจริต และมาตรการจัดทำบัญชีเงินวัด พร้อมเข้าสักการะมหาเถรสมาคม(มส.) โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธาน ที่พุทธมณฑล  จังหวัดนครปฐมด้วย

 

 

thairnews: