ผบช.ก. สั่งตั้งคณะทำงานตำรวจสอบสวนกลาง คลี่ปมอดีตพระกาโต ถอนเงินวัด 6 แสน จ่ายปิดข่าว เร่งเช็คเส้นทางการเงินตรวจสอบทุกมิติ

0
299

จากกรณีนายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ นักเทศน์ชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฉาวมีความสัมพันธ์กับสีกาตอง แม้จะลาสิกขาเพื่อยุติปัญหา แต่ว่ายังถูกเปิดโปงพฤติกรรมเพิ่มเติมเรื่องการนำเงิน 600,000 บาทจากบัญชีของวัดเพ็ญญาติ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ถูกระบุว่าจ่ายให้ “พระดอน” และ “สีกาตอง” เพื่อปกปิดข่าว ต่อมา “อดีตพระกาโตะ” ได้นำเงินจำนวน 600,000 บาท กลับมาคืนวัด ซึ่งกรณีดังกล่าวทางตำรวจ บก.ปปป. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ (9 พ.ค.65) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีละเอียด อยู่ในความสนใจและเป็นที่จับตามองของสังคม เพื่อความรอบครอบในการดำเนินการตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกมิติ และ เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงสั่งการให้ดำเนินการในรูปแบบของคณะทำงานตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพยานหลักฐาน รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ

รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวน ประกอบข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ค่อนข้างสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า กรณีการแต่งตั้งอดีตพระกาโตะ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช เป็นการแต่งตั้งในลักษณะไม่เป็นทางการ หรือ แต่งตั้งกันโดยภาระการ ไม่มีหนังสือการแต่งตั้ง ทำให้ไม่ถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน แต่ถึงแม้ว่าในทางกฎหมาย ตัวอดีตพระกาโตะ จะเป็นหรือไม่เป็นเจ้าพนักงานนั้น จากการกระทำดังกล่าวก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะทำธุรกรรมเบิกถอนเงินของวัด ซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทั้งนี้หากภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนแต่งตั้งคณะทำงาน ทางชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวก็จะเร่งออกหมายเรียก อดีตพระกาโตะ พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในทันที นอกจากนี้ยังเตรียมเร่งดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดเพ็ญญาติ รวมถึง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของอดีตพระกาโตะ อย่างละเอียดอีกด้วย  เพื่อตรวจสอบว่านอกเหนือจากเงินจำนวน 6 แสนบาท ของวัดที่ถูกถอนออกไปจ่ายค่าปิดข่าวฉาวแล้วนั้น ยังมีการเบิกถอนไปใช้ส่วนตัว หรือ ผิดวัตถุประสงค์วัดอีกหรือไม่

*****************************************************************