ทนายรณณรงค์ พาลูกสาวพระที่หายตัวในเทือกเขาผาขี้ควาย เข้าแจ้ง “กองปราบ” ไม่เชื่อหลงป่าหลังพบพิรุธอื้อ

0
1129

จากกรณีพระเด็จ คงกระพันธุ์ อายุ 56 ปี พระลูกวัดของวัดบ้านพร้าว ได้หายตัวไปอย่างปริศนา หลังจากรับกิจนิมนต์ขึ้นไปนั่งสวดมนต์พิธีปักธง บนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย ซึ่งเป็นเทือกเขาหลังหมู่บ้านและเขตติดต่อ 3 หมู่บ้าน กระทั่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หน่วยเขาช้างล้วง อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ กรมอุทยาน พร้อมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพร้าว และชาวบ้านหมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 9 ตำบลบ้านพร้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ระดมกำลังออกตามหาแต่ไม่พบตัว

วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม เวลา 09.30 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ช่อเพชร นวลวัน อายุ 28 (ลูกสาวพระเด็จ) ชาวจังหวัดพิษณุโลก เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สมเจตน์ แก้วสีดำ รอง สว. (สอบสวน) กก.4 บก.ป. ให้เร่งติดตามหาตัว พระเด็จ คงกระพันธุ์  ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2561 บนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย

 

น.ส.ช่อเพชร กล่าวว่า วันนี้ที่เดินทางมาร้องกองปราบเพื่อให้ช่วยติดตามหาพระเด็จ คงกระพันธุ์ ที่หายตัวไป ตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2561 ซึ่งพระพ่อมีกิจนิมนต์ ให้ขึ้นไปปักธงที่ยอดเทือกเขาผาขี้ควาย ซึ่งได้เดินทางไปกับ พระอำนาจ ซึ่งเป็นพระอยู่วัดเดียวกัน  แต่พบว่าพระพ่อไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย ตนจึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ สภ.นครไทย ไว้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 นับแต่นั้นได้มีการระดมคนช่วยกันค้นหาพระพ่อ แต่ยังไม่เจอจนจะครบ 1 เดือน แล้ว  ทางญาติพบความผิดปกติ เนื่องจาก ทุกครั้งที่พระพ่อจะไปกิจนิมนต์ที่ไหน จะบอกกับทางบ้านก่อน อีกทั้งพระพ่อทำงานในพื้นที่มานานกว่า 40 ปี ไม่มีทางที่จะหลงป่า และป่าไม่ใช่ป่าทึบมีทางเดินไปจนสุดยอดเขา ซึ่งไม่มีทางที่จะหลงป่าอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าน่าจะมีการลวงไปฆาตกรรม เพราะพระพ่อไม่เคยหายนานจากบ้านไปเกิน 2 วัน  ซึ่งการเดินทางขึ้นไปปักธงนั้นเป็นครั้งที่ 2  แล้ว

น.ส.ช่อเพชร กล่าวต่อว่า ตนได้สอบถามไปยังพระอำนาจ ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่ไปด้วยกันตอบเพียงแค่ว่าเดินทางไปด้วยกันจริง แต่หลงกันระหว่างทาง เพราะพระเด็จเดินตามมาไม่ทัน แต่ตนไม่เชื่อว่าพระพ่อไปกิจนิมนต์ เนื่องจากว่า หากพระพ่อจะเดินทางไปกิจนิมนต์ในป่าจะต้องเตรียมไฟฉาย ไฟแช็ค ไปด้วย แต่พบว่าที่กุฎิยังมีของใช้อยู่ครบ  นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบภายในกุฎิพบว่ามีการถูกรื้อค้น เชือกด้านหนึ่งของมุ้งขาดออก และยังพบจีวรกับผ้าห่มถูกฝังรวมกันไว้หลังกุฎิ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการซักผ้าห่มจำนวน 2 ผืน ซึ่งโดยปกติแล้วหากจะมีการซักผ้าห่มนั้นพระพ่อจะให้ทางบ้านซักให้ไม่มีทางที่พระพ่อจะซักเอง

น.ส.ช่อเพชร กล่าวอีกว่า ตนตั้งข้อสงสัยในตัวพระอำนาจ เนื่องจากว่าพระพ่อและพระอำนาจเคยมีปัญหากันเรื่องของการยืมเงิน โดยครั้งแรกพระอำนาจได้ยืมเงินไปจำนวน 2,000 บาท แต่ไม่ได้เงินคืน จากก่อนวันเกิดเหตุพระอำนาจได้เข้ามายืมเงินจำนวน 200 บาทแต่พระพ่อไม่ให้ จึงได้เกิดการโต้เถียงกันซึ่งได้มีสามเณรน้อยเห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเป็นเรื่องของพระ นอกจากนี้การจากสอบปากคำพระอำนาจให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตรงกับที่เล่าให้ตนฟัง พระอำนาจเล่าว่าได้ไปกิจนิมนต์กับพระพ่อเพียง 2 รูป แต่เมื่อให้การกับตำรวจกลับบอกว่าไปกับพระพ่อ และสามเณรน้อย รวมเป็น 3 รูป ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นชาวบ้านเห็นพระอำนาจและเณรน้อยขึ้นรถไปจริงแต่ไม่เห็นพระพ่อ จึงเชื่อว่าพระพ่ออาจไม่ได้ขึ้นไปบนเขาเลยด้วยซ้ำ

น.ส.ช่อเพชร เปิดเผยด้วยว่า พระอำนาจเป็นพระที่บวชได้ประมาณ 2 ปี ก่อนที่พระพ่อจะบวชได้ประมาณ 11 เดือน แต่ขณะนี้พระอำนาจได้ถูกให้สึกเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจร่างกายและพบว่ามีสารเสพติดภายในร่างกาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้เพื่อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

เจริญผล เอี่ยมพึ่ง รายงาน