เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงผลการตรวจค้นบริเวณวัดพระธรรมกายวันที่ 2 ว่า การปฏิบัติการตรวจค้นใน 2 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่โซน A B และ C ทุกอาคาร ทุกห้องแล้ว ไม่พบบุคคลตามหมายจับ แต่อย่างไรก็ตามยังมีการปฏิบัติการตรวจค้นบริเวณพื้นที่ควบคุมภายนอกบริเวณวัดพระธรรมกายอยู่
จาการตรวจค้น พบอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะตู้ไอเปอร์แบริค ในห้องที่เคยเป็นที่พักรักษาตังของพระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) บริเวณอาคารดาวดึงส์ จึงมีเหตึจำเป็นต้องอายัดอาคารดังกล่าว พร้อมทั้งควบคุมพื้นที่ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ และประสานขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบ และจัดกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและภัยแทรกซ้อนในพื้นที่สำคัญ
ด้วยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอุโมงค์พื้นที่ใต้อาคารภาวนา 60 ปี ว่าอาจเป็นเส้นทางหลบหนีเพื่อออกนอกเขตวัด พ.ต.ต.สุริยา ฯ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้ประสานวัดนำสื่อมวลชนเข้าพิสูจน์ทราบร่วมกันแล้ว พบว่า เป็นที่สำหรับกักเก็บและใช้บำบัดน้ำที่ถูกนำไปใช้เป็นน้ำตก บริเวณด้านบนของอาคารที่มีความสูงประมาณตึก 12 ชั้น มีทางเข้าบริเวณด้านข้างอาคาร ภายในเป็นเส้นทางเดินรูปตัวยูแยกซ้ายขวาระยะทางด้านละประมาณ 1.5 กิโลเมตร ปลายทางทั้งสองด้านเป็นทางตันเข้าออกทางเดียวไม่ปรากฏทางออกอื่น และสื่อมวลชนได้ทำการเก็บภาพ
แม้การปฏิบัติการตรวจค้นจะไม่พบบุคคลตามหมายจับ แต่ในทางปฏิบัติ ยังมีการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมต่อไป หากผู้ใดพบเบาะแสความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตามหมายจับ ขอให้แจ้งข้อมูลมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทางสายด่วน 1202 โทรฟรีทั่วประเทศ
รายงานข่าวแจ้งว่า วันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) เจ้าหน้าที่จากการระดมกำลัง 3 ฝ่าย จะมีการเข้าตรวจค้นพื้นที่ควบคุมบริเวณรอบนอกวัดต่อไปอีก
