วันนี้ (11 ม.ค.65) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายอนุชาติ คงสมกัน อายุ 63 ปี แกนนำชาวชุมชนวัดหลวง ซ.วงค์สว่าง 19 ถ.วงค์สว่าง แขวงวงค์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. พร้อมด้วยชาวชุมชนที่ร่วมลงชื่อคัดค้านตามที่สำนักงานศาสนสมบัติ มีประกาศลงวันที่ 16 ก.ค.64 เรื่อง ขอเช่าที่ดินศาสนสมบัติกลาง โดยเปิดให้มีการทำคำร้องคัดค้านการขอเช่าที่ดินโดยผู้ยื่นเรื่องขอเช่ารายหนึ่ง ภายในกำหนด 15 วัน และต่อมาวันที่ 21 ธ.ค.64 สำนักงานศาสนสมบัติกลาง ได้ติดประกาศ ณ ชุมชนวัดหลวง เพื่อให้ผู้ประสงค์ขอเช่าที่ดินศาสนสมบัติกลางวัดหลวงให้ยื่นความประสงค์ต่อสำนักงานศาสนสมบัติกลาง ภายในกำหนด 15 วัน โดยจะจัดให้มีการประมูลราคาหาผู้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าว แต่กลับมีเงื่อนไขไม่ให้แสวงหากำไร ชาวชุมชนเกิดข้อสงสัยหลายประการจึงได้ทำหนังสือคัดค้านและขอคำชี้แจงให้เป็นที่เข้าใจโดยทั่วกัน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ ให้กับชาวชุมชน
นายอนุชาติ กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อมาทวงถามถึงการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 ได้มายื่นหนังสือคัดค้านไว้แล้ว แต่จนถึงปัจจุบันกลับไม่มีคำตอบรับหรือคำชี้แจงใดๆ จากสำนักพุทธฯ มาขอพบผอ.สำนักงานศาสนสมบัติกลางก็ไม่ออกมาพบ ตนเคลือบแคลงใจมากกับหนังสือที่ติดประกาศการดังกล่าว ได้ให้เวลาผู้คัดค้าน 15 วัน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าอย่างไร พวกเราหวั่นใจว่าที่ดินที่ชาวชุมชนวัดหลวงใช้ประโยชน์สาธารณะร่วมกันมาหลายสิบปีจะตกอยู่ในครอบครองของนายทุนคนใดคนหนึ่ง ประกอบกับเงื่อนไขในประกาศระบุว่า ไม่ให้ผู้เช่าแสวงหากำไร แต่กลับเปิดให้มีการแข่งขันราคา วันนี้จึงต้องเดินทางมาถามความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวสมาคมสื่อมวลชนส่งเสริมพระพุทธศาสนาและสังคม(ส.พ.ส.) รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากชาวชุมชนวัดหลวงยืนรอเพื่อขอคำตอบอยู่ระยะหนึ่ง น.ส.บุบผา หินมานต์ ผอ.กลุ่มจัดการศาสนสมบัติส่วนกลางและวัดร้าง ได้ลงมารับฟังปัญหาดังกล่าว พร้อมกับชี้แจงว่า ทางสำนักงานฯได้จัดเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่ถ่ายรูปพื้นที่ดังกล่าวแล้วขอให้ชาวบ้านใจเย็นๆ ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่
ทั้งนี้พื้นที่วัดร้างดังกล่าวชาวชุมชนวัดหลวงได้ใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์มานานกว่า 40 ปี ก่อนจะจัดตั้งเป็น “ชุมชนวัดหลวง” โดยได้ใช้ประโยชน์เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดมา เช่นกิจกรรมพิธีการทางศาสนาเนื่องในวันสำคัญต่างๆ และยังใช้ในการประชุมของหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สำนักงานเขตบางซื่อ, การไฟฟ้า, ตำรวจ ทหาร เป็นต้น นอกจากนี้พื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ให้ความอนุเคราะห์ ให้เต็นท์ขนาดใหญ่มากางให้คนในชุมชนได้นำสินค้ามาค้าขายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่อย่างใด
*****************************************************************
