ฉลองคำสั่งปกครอง วัดสังฆทานหักล้างรุนแรง สั่งบ่ายตกค่ำขับพระ 30 พรรษาพ้นวัด โร่ปักกรดในวัดชนะฯ ขอพึ่งบารมีเจ้าคณะภาค 1

0
4509

 

สำนักข่าว Thai R News – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เวลา 19.00 น. นางสาวละเอียด จันทะวงศ์ อุบาสิกาและกรรมการมูลนิธิอเนกประสงค์วัดสังฆทาน แจ้งเหตุว่า ขณะนี้พระชำเรือง ธมฺมกาโม และพระบุญเลื่อน มิปะโก พระลูกวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี และกรรมการมูลนิธิอเนกประสงค์วัดสังฆทาน ถูกคำสั่งพระครูปลัดไพรินทร์ สิริวัฑฺฒโน เจ้าอาวาส ให้ออกจากวัดทันทีโดยไม่รับฟังคำร้องขอของเจ้าคณะตำบล ที่ให้ผ่อนปรนคำสั่ง ซึ่งขณะนี้พระทั้งสองรูปกำลังเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางศรีเมือง

พระชำเรือง เปิดเผยถึงเหตุการณ์ถูกขับให้ออกจากวัดว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสหลายคน นำหนังสือคำสั่งเจ้าอาวาส เรื่องให้ตนออกจากวัดมาให้ลงนามรับทราบคำสั่ง แต่ตนไม่เซ็นเนื่องจากเป็นการปฏิบัติโดยมิชอบ โดยหนังสือออกคำสั่ง ณ วันที่ 22 ธ.ค. แต่มีผู้นำหนังสือมาให้รับทราบเมื่อช่วงบ่ายแล้วกดดันให้ออกจากวัดในทันที และยังแอบอ้างด้วยว่าอาศัยคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว เจ้าอาวาสควรสอบถามหรือว่ากล่าวตักเตือนกันก่อน เพราะอาตมามีพรรษามากกว่า 30 และอยู่ในวัดนี้มานาน เชื่อว่าคงไม่มีเจ้าอาวาสวัดไหนๆ ใช้วิธีขับไล่พระลูกวัดยามมืดยามค่ำแบบนี้

ทั้งนี้ ในคำสั่งดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากมีภาพข่าวปรากฏว่า พระชำเรืองได้ไปยื่นหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขับไล่พระครูไพรินทร์ เจ้าอาวาสวัดสังฆทานให้ออกจากหน้าที่ ซึ่งพระชำเรืองได้มีพฤติกรรมที่ไม่เคารพ เชื่อฟัง กระด้านกระเดื่อง ยุยงปลุกปั่นให้แตกความสามัคคี ก่อความวุ่นวาย ทำให้ไม่เกิดความสงบ จึงขอนิมนต์ให้พระชำเรือง ออกจากวัดสังฆทานตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2560 สั่ง ณ วันที่ 22 ธ.ค.2560 ลงนามพระครูปลัดไพรินทร์ สิริวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังพระชำเรือง เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางศรีเมืองแล้ว  ได้เดินทางเข้าปักกรดพักแรมภายในวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เพื่อขอพึ่งความเป็นธรรมกับ พระเทพสุธี (สายชล ฐานวุฑฺโฒ) เจ้าคณะภาค 1 โดยมีคณะญาติโยมจำนวนหนึ่งคอยติดตามถวายความสะดวก และเมื่อเช้าของวันนี้ ( 24 ธ.ค.) จึงเข้าพบกับพระเลขานุการเจ้าคณะภาค 1 โดยได้รับแจ้งว่าพระเทพสุธี ได้ออกไปปฏิบัติศาสนกิจภายนอกก่อนหน้านี้แล้ว  แนะนำให้เดินทางไปพบสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่วัดพิชยญาติการาม เขตธนบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อไป

 

สำหรับที่มาของการออกคำสั่งให้พระชำเรืองและพระบุญเลื่อนออกจากวัดสังฆทานนั้น เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อสนอง กตปุญฺโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดสังฆทาน ซึ่งประกอบด้วยพระสงฆ์และฆราวาส ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้มีการตรวจสอบการเบิกจ่าย การใช้เงินในมูลนิธิวัดสังฆทาน ของพระครูปลัดไพรินทร์ สิริวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน ที่ดำเนินการไม่โปร่งใสโปร่งใส เดิมมีเงินทุนเริ่มแรกของมูลนิธิถึง 30 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 กรรมการมูลนิธิตรวจสอบสมุดบัญชีของธนาคาร พบว่าเงินในมูลนิธิหายไปถึง 7 ล้าน 7 แสนบาท ซึ่งขัดกับข้อบังคับมูลนิธิ  เพราะมีการนำเงินไปก่อสร้างอาคารสวรรคาลัยภายในวัด ขณะเดียวกัน เจ้าอาวาสไม่สามารถชี้แจงการใช้จ่ายเงิน ที่ได้จากงานกฐินของปี 2558ได้ คณะลูกศิษย์ส่วนหนึ่งจึงได้มีการเรียกร้องให้คณะบริหารทั้งหมดของเจ้าอาวาส ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบการใช้เงินของมูลนิธิ และของวัด แต่ไม่ได้รับการยินยอม

ส่วนประเด็น เงินเกือบ 8 ล้านบาท ที่กรรมการชุดเก่าไปร้องเรียนกับรัฐบาลให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินว่าผิดปกติหรือไม่  กรรมการชุดคนนี้ยอมรับว่า เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จริง โดยเอาไปซื้อที่ดินเพื่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม มีเอกสารการซื้อถูกต้อง และการซื้อมีผู้อื่นร่วมรู้เห็นด้วย

ด้านพระมหาวิจิตร อินฺทธมฺโม เจ้าคณะตำบลบางไผ่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 ธ.ค. ได้เข้าไปสังเกตการณ์ภายในวัดสังฆทาน พบว่า มีการออกหนังสือคำสั่งให้พระชำเรืองออกจากวัด มีการจับกลุ่มพูดคุยกันแต่ไม่ทราบว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน จึงได้แนะนำให้ค่อยๆ พูดจากัน และให้ปฏิบัติต่อกันด้วยความละมุนละม่อม อย่าให้เกิดความรุนแรงต่อกัน จากนั้นจึงได้กลับออกมา

เมื่อถามว่าการออกคำสั่งให้พระลูกวัดออกจากวัดโดยไม่มีการสอบสวนก่อนหรือว่ากล่าวตักเตือนก่อนจะเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องหรือไม่ พระมหาวิจิตร กล่าวตอบว่า ทางที่ถูกก็ควรต้องมีการพูดคุยกันก่อน หากทั้งสองฝ่ายมีการหารือกัน ปรับความเข้าใจกันและเห็นแก่ชื่อเสียงของวัด เห็นแก่ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมศรัทธาไปมากกว่านี้

ส่วนกระบวนการทางคณะสงฆ์ในการสอบสวนข้อเท็จเกี่ยวกับข้อร้องเรียนการใช้จ่ายเงินของวัดสังฆทานไม่โปร่งใส เจ้าคณะตำบลบางไผ่กล่าวว่า ทางคณะสงฆ์ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้