ครั้งแรกในประเทศไทย ประมุขสงฆ์-ประธานสงฆ์ ร่วมสวดมนต์ข้ามปี อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ-พระพุทธรูป 13 ประเทศให้สักการะเป็นสิริมงคลปีใหม่

0
1493

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

วันนี้ (25 ธันวาคม 2561) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วโลก ว่า กระทรวงวัฒนธรรมจะได้บูรณาการทำงานร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ 20 หน่วยงาน จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วโลก” ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2561 – 1 มกราคม 2562 เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และสวดมนต์ให้ประเทศไทยมีความสงบสุขและความปรองดอง เสริมสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัวมีความสุข ตลอดจนเป็นแรงจูงใจให้ประชาชน ลด ละ เลิก อบายมุข ในช่วงเทศกาลปีใหม่

สำหรับกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย วันที่ 29 ธันวาคม 2561 ขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ภูฏาน กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย ลาว มองโกเลีย เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา เวียดนาม และประเทศไทย รวม 13  ประเทศ 13 ขบวน จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนสักการะ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2561 – 1 มกราคม 2562 จากนั้น จะอัญเชิญพระบรมสาริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญจากต่างประเทศไปประดิษฐานให้ประชาชนสักการะ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนถึงวันที่ 6 มกราคม 2562

   วันที่ 31 ธันวาคม 2561 – 1 มกราคม 2562 กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยส่วนกลาง กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เชิญประมุขสงฆ์ต่างประเทศ และรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านศาสนาและวัฒนธรรมของประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งเป็นปีแรกที่ประมุขสงฆ์และประธานสงฆ์ต่างประเทศเดินทางมาร่วมสวดมนต์ข้ามปีที่ประเทศไทย อาทิ สมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี (เทพ วงศ์) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายมหานิกาย ประเทศกัมพูชา และสมเด็จพระอภิสิรีสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (บัวร์ กรี) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติ ประเทศกัมพูชา พระมหาสังฆนายกภัททันตะ ประธานสังฆนายกแห่งสหภาพเมียนมา พระติ๊ก เตียน หงอน ประธานสงฆ์แห่งชาติเวียดนาม  พระมหาสังฆนายกะ ประเทศศรีลังกา พระ ซื่อ หย่งซิน เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น เพื่อสานสัมพันธไมตรีในมิติทางศาสนา นอกจากนี้ องค์การศาสนาอื่น อาทิ ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ จะได้เชิญชวนศาสนสถานในสังกัด จัดกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคล และจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนานั้น ๆ ด้วย

ส่วนกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2561 – 1 มกราคม 2562 กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สมาคมวิสาขบูชาโลก คณะกรรมการสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ และสมัชชาสงฆ์ไทยในต่างประเทศ/ยุโรป/เอเชีย หรือประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาและประเทศที่มีชุมชนชาวพุทธทั่วโลก 544 วัด โดยขอความร่วมมือไปยังศูนย์ประสานงานที่กำกับดูแลพระธรรมทูตในต่างประเทศ ทั้งธรรมยุตและมหานิกาย แจ้งให้วัดไทยทั่วโลกจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี แล้วรายงานผลการดำเนินงานต่อกระทรวงวัฒนธรรม

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล ที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2561 – 1 มกราคม 2562 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. จัดรถบริการรับ-ส่งฟรี ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก และวัดวชิรธรรมสาธิต

นายวีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้ เป็นปีที่ 14 และนับเป็นปีพิเศษที่วธ.จัดร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและภาคส่วนต่างๆ สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่า คือ จะเริ่มจัดงานตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2561โดยพระสังฆราชหรือประมุขสงฆ์ที่วธ.กราบทูลเชิญ จะนำพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญมาขึ้นสู่บุษบกในแต่ละขบวน รวม 12 ริ้วขบวน สำหรับประเทศไทยนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวังขึ้นสู่ราชรถน้อยเข้าร่วมขบวน ดังนั้นแต่ละริ้วขบวนนอกจากจะมีความสวยงามเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาของแต่ละประเทศแล้ว ประชาชนคนไทยที่มาร่วมสักการะและชมแต่ละริ้วขบวนก็จะได้รับประโยชน์และความเป็นสิริมงคลในเวลาเดียวกัน

“ในโอกาสมหามงคลนี้ นอกจากประชาชนจะได้ร่วมกันสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังจะได้รับฟังพระธรรมเทศนาด้วย อยากให้ทุกท่านได้นำหลักธรรมเป็นเข็มทิศในการนำทางเดินของชีวิตในปี 2562 สำหรับในช่วงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 13 ประเทศจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ประชาชนสามารถเข้าชมริ้วขบวนได้ทั้งสองฝั่งถนนราชดำเนิน พร้อมทั้งขอเชิญชวนห้างร้าน ผู้ประกอบกิจการทั้งสองฝั่งถนนราชดำเนินได้ร่วมตั้งโต๊ะหมู่บูชาด้วย” รมว.วธ. กล่าว