คณะศรัทธาร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ปี 2561 ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม

0
1737

วันนี้ (17 พ.ย.61) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายวิรัช ชินวินิจกุล อดีตองคมนตรีและรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี โดยมีพระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และพระเทพศาสนาภิบาล (หลวงพ่อแย้ม) รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระครูอดุลพัฒนาภรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ร่วมเป็นประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ มีเจ้าคณะพระสังฆาธิการในจังหวัดนครปฐม พลเรือโท เชษฐา ใจเปี่ยม ผอ.สำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือ  ศาสตราจารย์ น.พ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ ราชบัณฑิต พ.ต.อ.สุรชาติ มณีจักร รักษาการราชผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ คุณเกศี จันทราประภาวัฒน์ นายชัยรัตน์ ตระกูลรังสิ พร้อมคณะและศรัทธาสาธุชน นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ภายหลังพิธีทอดผ้ากฐิน ถวายไตรจีวร เครื่องบริวารกฐินและจตุปัจจัยไทยธรรมแล้ว พระเทพมหาเจติยาจารย์ ให้โอวาทถึงเรื่องอานิสงส์แห่งการทอดกฐินสามัคคีว่า สร้างความความสามัคคีปรองดองแก่หมู่คณะ ทั้งคณะสงฆ์เองและคณะศรัทธาญาติโยมที่ร่วมในการทอดกฐินสามัคคี ในสมัยพุทธกาลนั้นผ้าเป็นของหายาก แม้คนตายก่อนเผาก็จะต้องเปลื้องผ้าออกจากศพไว้ก่อน ปัจจุบันผ้าเป็นของหาง่าย จะมีผู้ถวายผ้าไตรจีวรมากขึ้น และมีผู้ตัดเย็บย้อมผ้าที่จะทำเป็นจีวรได้แพร่หลาย การตัดเย็บย้อมอย่างเก่าจึงเลิกไป เพียงแต่รักษาชื่อและประเพณีไว้โดยไม่ต้องใช้กรอบไม้แม่แบบ เพียงถวายผ้าขาวให้ตัดเย็บย้อมให้เสร็จในวันนั้นก็ได้ หรือนำผ้าสำเร็จรูปมาถวายก็เรียกว่าถวายผ้ากฐินเหมือนกัน เนื่องจากยังมีประเพณีนิยมถวายผ้ากฐินกันแพร่หลายจึงนับว่าเป็นประเพณีนิยมในการบำเพ็ญกุศลอีกประการหนึ่ง

และได้กล่าวถึงเรื่องกาลจีวร ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้รับผ้าจำนำพรรษาที่เขาถวายแก่ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาก่อนออกพรรษา แล้วเก็บไว้ได้ แต่ภิกษุบางรูปเก็บไว้เกินเขตจีวรกาล พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติสิกขาบท ให้รับผ้าจำนำพรรษาได้ก่อนออกพรรษา 10 วัน แต่ให้เก็บไว้เพียงตลอดกาลจีวร ถ้าได้กรานกฐิน เช่นการถวายผ้ากฐินก็เก็บต่อได้อีก 4 เดือน จึงเป็น 5 เดือน  หากเก็บเกินกำหนดนี้จะต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์