“กาโตะ” รับเบิกเงินวัดจริง ไม่ได้มีเจตนายักยอก ภายหลังเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน บช.ก.

0
282

วันที่ 17 พ.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) นายพงศกร จันทร์แก้ว หรืออดีตพระกาโตะ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. และคณะพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ยอมรับว่าเบิกเงินออกมาจริง หลังจากถูกสอบปากคำนานเกือบ 5 ชั่วโมง

อดีตพระกาโตะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาในฐานะผู้ต้องหา จากการที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นตนยอมรับว่ามีการเบิกถอนเงินออกมาจริง แต่ไม่ได้มีเจตนายักยอกทรัพย์ โดยตนนำหลักฐานข้อมูลต่างๆ เช่น บันทึกการโอนเงิน และข้อความแชต มาให้กับทางพนักงานสอบสวน เจตนาที่ตนเบิกถอนเงินออกมาได้ให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยตนเบิกถอนเงินออกมา 2 ครั้ง เพื่อไปใช้กับปัญหาส่วนตัว เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท และ 100,000 บาท รวม 600,000 บาท ส่วนเงินนอกเหนือจากนี้ ตนทำการเบิกถอนมา แต่ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งหมด โดยการเบิกถอนเงินนั้น ตนทำการลงลายเซ็นร่วมกับเจ้าหน้าที่ในวัดอีก 1 คน รวมเป็น 2 ลายเซ็นตามระเบียบ ซึ่งก่อนทำการเบิกถอน ตนได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่วัดคนดังกล่าวแล้ว

นายพงศกร กล่าวอีกว่า ปกติตนมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างภายในวัด โดยตนได้เปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อนำมาใช้สำหรับรับบริจาคจากญาติโยม เนื่องจากรักษาการเจ้าอาวาสองค์ก่อน อาพาธอยู่ที่วัดบุปผาราม กรุงเทพฯ แต่ไม่มีการทำบัญชีเงินเข้าออก โดยเงินจำนวน 600,000 บาทที่ตนเบิกถอนมานั้น ได้เบิกถอนมาและนำมาเข้าบัญชีอื่น ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่าการขอยืมเงินวัดถือเป็นความผิด โดยจะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะไม่ได้มีเจตนายักยอกทรัพย์แต่อย่างใด และยังได้เตรียมหลักทรัพย์มายื่นประกันตัวอีกด้วย ทั้งนี้ ตนอยากขอบคุณทุกคนที่เข้าใจตน และอยากขอโทษสังคม รวมถึงอยากฝากถึงพระภิกษุสงฆ์ทุกรูป ให้ดูตนเองเป็นตัวอย่าง อย่าทำเหมือนเช่นตนเอง และอยากให้ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ต่อไป

*****************************************************************