กองปราบฯ ตามยึดทรัพย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัต ได้กว่า 100 ล้าน ยึดรถหรู-กระเป๋าแบรนด์เนม ขุดพบอาศัยช่วงหลวงพ่ออาพาธฉกเงิน 190 ล้าน

0
316

จากกรณีปรากฏข่าวว่า มีการยักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา หลังจาก สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 3 เม.ย.65 รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สำนวนคดีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปราม เข้ามาเป็นผู้ถือสำนวนคดี โดยกองปราบฯ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนไปแล้วและได้ตรวจสอบจนพบว่ามีการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีของวัดเกี่ยวกับการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขาจริง โดยบุคคลดังกล่าวเป็นลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัตและเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นไวยาวัจกร ก่อนจะสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 23 มีนาคม พนักงานสอบสวนกองปราบฯได้ดำเนินการออกหมายจับ นายเนย (นามสมมติ) และสามารถจับกุมตัวนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว และจากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาพบทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อาทิ รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนลี่ ยี่ห้อปอร์เช่  ยี่ห้อวอลโว่  ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู  ยี่ห้อเล็กซัส , เงินสด , เงินฝากในบัญชี , อสังหาริมทรัพย์ , กระเป๋าแบรนด์เนม , พระเครื่องทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ประสานงานไปยังสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการต่อไป

โดยผู้ต้องหาได้อาศัยช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต อาพาต รักษาตัวโรคมะเร็งอยู่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ปลอมแปลงเอกสารลายเซ็น และการทำธุรกรรมอื่นๆ โยกย้ายทรัพย์สินไปเป็นของตัวเองกว่า 190 ล้านบาท และอาจจะมีมากกว่านี้  ซึ่งเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจากการตรวจสอบย้อนไปยังต้นทางพบนายเนยได้ใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน จากนั้น นาย น. ได้นําใบถอนเงินฉบับดังกล่าว มาเขียนจํานวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนําไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม อีกทั้งยังมีการไว้วานคนสนิทอีกคนให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ในการทําธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งซื้อแคชเชียร์เช็ค ของธนาคารกสิกรไทย สั่งจ่ายให้แก่ผู้ต้องหา ก่อนที่นําแคชเชียร์เช็คไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม และขณะนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังจากพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลในการผัดฟ้องฝากขังครั้งแรก เนื่องจากมูลค่าทรัพย์สินที่กระทำความผิดมีมูลค่าสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

รายงานข่าวยังระบุอีกว่า เป็นที่รู้กันโดยกว้าง โดยเฉพาะลูกศิษย์วัดบวรนิเวศวิหารว่า วัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นวันสาขาของวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์พัฒนาวัด โดยบัญชีที่ถูกยักยอกไปนั้นเป็นเงินจากการที่ผู้ศรัทธาบริจาคเพื่อพัฒนาวัด แต่พบว่ามีบางส่วนหายไป ซึ่งผู้ที่จะลงนามจ่ายถอนได้คือสมเด็จพระวันรัตคนเดียวเท่านั้น ต่อมาทางผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร จึงมีคําสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของ “สมเด็จพระวันรัต” อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารด้วย จนพบว่าเกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ออกแถลงการณ์เป็นหนังสือ ใจความว่า ด้วย สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 มีนาคม มีการตรวจสอบทรัพย์สินและบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารกับของวัดอื่น ๆ ที่อยู่ในความดูแลของเจ้าประคุณสมเด็จฯ พบหลักฐานว่า มีบุคคลกระทำการโดยมิชอบนำทรัพย์สินและเงินในบัญชีของวัดไป เป็นของตนเองโดยทุจริต จึงมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ และเจ้าพนักงานตำรวจกองปราบปรามได้กระทำการจับกุมผู้กระทำความผิดไปเรียบร้อยแล้ว คดีอยู่ในระหว่างการฝากขังชั้นสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

*****************************************************************