เสนอที่ประชุม มส. กรณีวัดพระธรรมกาย จัดการเข้มข้น กระจายหลายหน่วยงานควบคุม ตรวจสอบ

0
23233

ดีเอสไอ เสนอ คมช. ยกเลิก ม.44 วัดพระธรรมกาย ตรวจสอบการเงิน-ชำระภาษีของมูลนิธิฯ ด้านเจ้าใหญ่หนกลาง สั่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลวัด ให้ภาค 1 รองภาค 1 เป็นที่ปรึกษา

สำนักข่าว Thai R News – เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ตามวาระปรกติ หลังเสร็จสิ้นการปะชุม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ผอ.พศ.) แถลงข่าวว่า การประชุมในวันนี้ ตนในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้เสนอต่อที่ประชุมเรื่อง รายงานการดำเนินงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้แนวทางในการแก้ไขปัญหากรณีวัดพระธรรมกายโดยการปฏิบัติการตรวจค้นตามคำสั่ง คสช. ที่ 5/2560 ซึ่งออกตามความในมาตรา 44 ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่สมารถเข้าไปพิสูจน์ทราบว่าตามที่พระไชยบูลย์ ธัมมชโย และบุคคลของวัดกล่าวอ้างมาตลอดว่าพระธัมมชโยอาพาธหนัก ไม่สามารถเดินทางไปที่อื่นได้นั้น ไม่เป็นความจริง ยังสมารถเดินทางหลบหนีไปที่อื่นและเจตนาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในการดำเนินงานหลังจากนี้ ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่มีหมายจับของศาลในความรับผิดชอบ ได้จัดชุดปฏิบัติการเพื่อติดตามจับกุมโดยใช้การปฏิบัติด้านการข่าวและการสืบสวน นำปฏิบัติการจับกุม

พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวต่อว่า ดีเอสไอ เสนอด้วยว่า สถานการณ์ภายในวัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และพื้นที่ควบคุมโดยรอบ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ บรรดาสิ่งกีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีการทยอยรื้อถอนออกจนเกือบหมดสิ้นแล้ว และยังไม่พบข้อมูลทางการข่าวเกี่ยวกับการจะใช้ความรุนแรงในพื้นที่ควบคุม จึงหมดความจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายพิเศษควบคุมพื้นที่ และจากการปฏิบัติการตรวจค้นวัดและพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เดือนมิ.ย. จนถึงวันที่ 10 มี.ค. 2560 พบข้อเท็จจริงว่าวัดพระธรรมกาย แม้ว่าสถานการณ์โดยทั่วไปจะเห็นว่าวัดมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ แต่ก็พบว่ามีการใช้รูปแบบของมูลนิธิเข้ามาเกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพย์สินต่างๆ และยังเป็นที่กังขาของสังคมว่าหลักคำสอนและหลักปฏิบัติของพระภิกษุสามเณรของวัด เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ เพื่อให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อกรณีวัดพระธรรมกายอย่างมีประสิทธิภาพ ดีเอสไอ จึงมีข้อเสนอเพื่อโปรดพิจารณาว่า (1) เสนอหัวหน้า คสช. พิจารณายกเลิกข้อ 9 ของคำสั่งที่ 5/2560 ลงวันที่ 15 กุมพาพันธ์ 2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายพื้นที่วัดพระธรรมกายตลอดจนพื้นที่ในหมู่ที่ 7 ถึงหมู่ที่ 13 ต.คลองสอง และพื้นที่หมู่ที่ 7 ถึงหมู่ที่ 11 ต.คลองสาม ทั้งนี้ในการปฏิบัติ ดีเอสไอ สตช. และการข่าวนำการปฏิบัติการ เพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย และใช้อำนาจตามกฎหมายปกติในการดำเนินการเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ผอ.พศ. กล่าวอีกว่า (2) ได้เสนอให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบ โดยใช้รูปแบบกองอำนวยการร่วมส่วนหน้า (กอร.สน.) ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธาน กอร.สน. มีเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี อาจเข้าร่วมในลักษณะเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการ บก.ภ.จว.ปทุมธานี เป็นกรรมการ โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรรมการแต่ละฝ่ายเป็นกำลังในการปฏิบัติงาน ภายใต้กรอบความยินยอมของวัดพระธรรมกาย โดยมีภารกิจสำคัญในการสอดส่องดูแลความเรียบร้อย ให้เป็นไปตามกฎหมายและพระธรรมวินัย (3) ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ มอบหมายให้ บก.ภ.จว.ปทุมธานี เป็นหน่วยงานหลักโดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกองกำลังฝ่ายทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ (4) มอบหมายกระทรวงมหาดไทย(มท.) ในฐานะนายทะเบียนผู้รับผิดชอบการดำเนินการของมูลนิธิ ตรวจสอบการดำเนินงานว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ (5) มอบหมายกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ตรวจสอบด้านการเงินและการชำระภาษีของมูลนิธิธรรมกายว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ (6) มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อตรวจพิจารณาแนวทางการสอนและเผยแพร่ของวัดพระธรรมกาย มูลนิธิฯ และพระภิกษุของวัดที่ได้เผยแพร่ไปแล้วว่ามีคำสอนใดที่ขัดต่อพระธรรมวินัย เรื่องใด ผู้ใดเป็นผู้เผยแพร่ เพื่อนำมาดำเนินการตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และกฎมส. ที่เกี่ยวข้อง และจัดทำคำสอนที่ถูกต้องเผยแพร่ต่อสังคม และให้วัดต่างๆ รวมถึงวัดพระธรรมกายใช้เป็นข้อมูลในการเผยแผ่

(7) มอบหมายกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ติดตามสอดส่องและเฝ้าระวังการเผยแพร่ข้อความที่เป็นการยุยง ปลุกปั่นให้มีการต่อต้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ในกรณีของวัดพระธรรมกายบนระบบคอมพิวเตอร์ และขออำนาจศาลเพื่อปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว (8) มอบหมายคณะกรรมการ กสทช. ดำเนินการปิดกั้นหรือยกเลิกการอนุญาตให้ประกอบกิจการระบบสื่อสารผ่านดาวเทียว (DMC) จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาตาม (6) ได้อย่างเป็นรูปธรรม (9) มอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อสั่งการให้หน่วยงานทหารในพื้นที่ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่วัดพระธรรมกาย

นอกจากนี้ ผอ.พศ. ได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลวัดพระธรรมกาย ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการที่ปรึกษา ประกอบด้วย เจ้าคณะภาค 1 เป็นประธาน รองเจ้าคณะภาค 1 รองเจ้าคณะภาค 15 และ ดร.สมศักดิ์ โตรักษา (ที่ปรึกษากฎหมาย) 2. คณะกรรมการกำกับ ดูแล ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นประธาน เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เจ้าคณะตำบลคลองสี่ เจ้าคณะตำบลลาดสวาย รองเจ้าคณะอำเภอเมืองปทุมธานี ผู้แทนพระวินยาธิการ และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (ผอ.พศจ.) เป็นกรรมการและเลาขานุการ มีหน้าที่กำกับ ดูแล ในการบริหารจัดการและการปกครองคณะสงฆ์ภายในวัดพระธรรมกาย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยที่ประชุมมส. มีมติรับทราบ ตามที่เสนอแล้ว