ยื่นกราบทูล “สมเด็จพระสังฆราช” – ร้องนายกฯ ให้ตรวจสอบ “พงศ์พร” เลือกปฏิบัติ กล่าวโทษข้อหาฟอกเงิน “วัดสามพระยา-วัดสัมพันธวงศ์”

0
1063

วันนี้ (3 ม.ค.2562) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายพล ชีพทีฆ์ ทนายความ สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค (สป.9) พร้อมด้วยนายรักสยาม นามานุภาพ นายกสมาคมฯ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และนายสุนทรา พลไตร ผอ.ศูนย์ข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษทางกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) ในการกล่าวโทษอดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และนายแก้ว ชิดตะขบ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และต้องสละสมณเพศ

นายรักสยาม กล่าวว่า ตามที่ทางสมาคมฯได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้รับหลักฐานใหม่จากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ พบว่าพ.ต.ท.พงศ์พร น่าจะไม่ใช่ผู้เสียหายในคดี ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีการฟอกเงิน ใช้งบประมาณผิดประเภท กับวัดสัมพันธวงศาราม และวัดสามพระยา ในงบประมาณสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ประจำปีงบประมาณ 2557 เพราะงบฯนี้ มีวัดได้รับงบฯ 9 วัด รวม 72 ล้านบาท แต่ 7 วัดที่เหลือ เช่น วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับวัดสามพระยา  และวัดสัมพันธวงศาราม คือ ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แต่ทางวัดก็มีการจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี  ซึ่งทางพศ.กลับไม่ได้กล่าวโทษ ดังนั้นเมื่อ 7 วัดที่เหลือไม่ผิด เจ้าอาวาสวัดสามพระยาและพวก จึงน่าจะไม่มีความผิด และต้องไม่ถูกดำเนินคดีด้วย แต่พ.ต.ท.พงศ์พร กลับเลือกปฏิบัติโดยไม่เท่าเทียมกัน อาจจะถือได้ว่าพ.ต.ท.พงศ์พร และนายสุนทรา ปฏิบัติหน้าที่โดยมีเจตนาพิเศษ หรือมีสาเหตุโกรธเคืองก็อาจเป็นได้ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้เสียหายแก่บุคคลอื่นได้ จึงขอเรียกร้องให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพ.ต.ท.พงศ์พร และพวก หากพบว่ามีมูลการกระทำความผิด ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด

นายรักสยาม กล่าวต่อไปว่า สมาคมฯเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง เพราะนายแก้ว เป็นอุปนายกสมาคมฯ และอดีตพระพรหมดิลก เป็นสมาชิกของสมาคมฯ จึงเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองจากทางสมาคมฯ ทางสมาคมฯ จึงได้ออกมาเรียกร้องเรื่องดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ทางสมาคมฯจะนำเอกสาร ข้อมูล หลักฐานทั้งหมด ทำหนังสือกราบทูลสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ด้วย ส่วนสาเหตุที่เพิ่งออกมานั้น เพราะต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐาน จนได้หลักฐานชิ้นสำคัญคือ รายชื่อวัดที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ประจำปีงบประมาณ 2557